" ความเป็นมาของภาษาไทย"
ภาษาไทยเป็นภาษาที่เก่าเเก่ที่สุดในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรากฐานมาจากออสโตรไทย ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับภาษาจีน มีหลายคำที่ขอยืมมาจากภาษาจีน
พ่อขุนรามคำเเหงได้ประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อปี พศ 1826 (คศ1283) มี พยัญชนะ 44 ตัว (21 เสียง), สระ 21 รูป (32 เสียง), วรรณยุกต์ 5 เสียง คือ เสียง สามัญ เอก โท ตรี จัตวา ภาษาไทยดัดเเปลงมาจากบาลี เเละ สันสกฤต
คนไทยเป็นผู้ที่โชคดีที่มีภาษาของตนเอง เเละมีอักษรไทย เป็นตัวอักษร ประจำชาติ อันเป็นมรดกล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ ซึ่งเป็นเครื่องเเสดงว่าไทยเราเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมสูงส่งมาเเต่โบราณกาลเเละยั่งยืนมาจนปัจจุบัน คนไทยผู้เป็นเจ้าของภาษา ควรภาคภูมิใจที่ชาติไทยใช้ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติมากว่า 700 ปีเเล้ว เเละจะยั่งยืนตลอดไป ถ้าทุกคนตระหนักในความสำคัญของภาษาไทย
ภาษาเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ภาษาเป็นสื่อใช้ติดต่อกันเเละทำให้วัฒนธรรมอื่นๆเจริญขึ้น เเต่ละภาษามีระเบียบของตนเเล้วเเต่จะตกลงกันในหมู่ชนชาตินั้น ภาษาจึงเป็นศูนย์กลางยืดคนทั้งชาติ ดังข้อความ ตอนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ในพระบาท สมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง "ความเป็นชาติโดยเเท้จริง" ว่า ภาษาเป็นเครื่องผูกพันมนุษย์ต่อมนุษย์เเน่นเเฟ้นกว่าสิ่งอื่น เเละไม่มีสิ่งใด ที่จะทำให้คนรู้สึกเป็นพวกเดียวกันหรือเเน่นอนยิ่งไปกว่าภาษาเดียวกัน รัฐบาลทั้งปวงย่อมรู้สึกในข้อนี้อยู่ดี เพราะฉะนั้น รัฐบาลใดที่ต้องปกครองคนต่างชาติต่างภาษา จึงต้องพยายามตั้งโรงเรียนเเละออกบัญญัติบังคับ ให้ชนต่างภาษาเรียนภาษาของผู้ปกครอง เเต่ความคิดเห็นเช่นนี้ จะสำเร็จตามปรารถนาของรัฐบาลเสมอก็หามิได้ เเต่ถ้ายังจัดการเเปลง ภาษาไม่สำเร็จอยู่ตราบใด ก็เเปลว่า ผู้พูดภาษากับผู้ปกครองนั้นยังไม่เชื่ออยู่ตราบนั้น เเละยังจะเรียกว่าเป็นชาติเดียวกันกับมหาชนพื้นเมืองไม่ได้ อยู่ตราบนั้น ภาษาเป็นสิ่งซึ่งฝังอยู่ในใจมนุษย์เเน่นเเฟ้นยิ่งกว่าสิ่งอื่น"
ดังนั้นภาษาก็เปรียบได้กับรั้วของชาติ ถ้าชนชาติใดรักษาภาษาของตนไว้ได้ดี ให้บริสุทธิ์ ก็จะได้ชื่อว่า รักษาความเป็นชาติ
คนไทยทุกคนใช้ภาษาไทยเป็นสื่อความรู้สึกนึกคิดเท่านั้นยังไม่เพียงพอ ควรจะรักษาระเบียบความงดงามของภาษา ซึ่งเเสดงวัฒนธรรม เเละ เอกลักษณ์ประจำชาติไว้อีกด้วย ดัง พระราชดำรัส สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตอนหนึ่งว่า
"ภาษานอกจากจะเป็นเครื่องสื่อสารเเสดงความรู้สึกนึกคิดของคนทั่วโลก เเล้ว ยังเป็นเครื่องเเสดงให้เห็นวัฒนธรรม อารยธรรม เเละเอกลักษณ์ ประจำชาติอีกด้วย ไทยเป็นประเทศซึ่งมีขนบประเพณี ศิลปกรรมเเละภาษา ซึ่งเจริญรุ่งเรืองมาแต่อดีตกาล เราผู้เป็นอนุชนจึงควรภูมิใจ ช่วยกัน ผดุงรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่บรรพบุรุษได้ อุตส่าห์สร้่างสรรค์ขึ้นไว้ให้เจริญสืบไป "
พ่อขุนรามคำเเหงได้ประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อปี พศ 1826 (คศ1283) มี พยัญชนะ 44 ตัว (21 เสียง), สระ 21 รูป (32 เสียง), วรรณยุกต์ 5 เสียง คือ เสียง สามัญ เอก โท ตรี จัตวา ภาษาไทยดัดเเปลงมาจากบาลี เเละ สันสกฤต
คนไทยเป็นผู้ที่โชคดีที่มีภาษาของตนเอง เเละมีอักษรไทย เป็นตัวอักษร ประจำชาติ อันเป็นมรดกล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ ซึ่งเป็นเครื่องเเสดงว่าไทยเราเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมสูงส่งมาเเต่โบราณกาลเเละยั่งยืนมาจนปัจจุบัน คนไทยผู้เป็นเจ้าของภาษา ควรภาคภูมิใจที่ชาติไทยใช้ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติมากว่า 700 ปีเเล้ว เเละจะยั่งยืนตลอดไป ถ้าทุกคนตระหนักในความสำคัญของภาษาไทย
ภาษาเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ภาษาเป็นสื่อใช้ติดต่อกันเเละทำให้วัฒนธรรมอื่นๆเจริญขึ้น เเต่ละภาษามีระเบียบของตนเเล้วเเต่จะตกลงกันในหมู่ชนชาตินั้น ภาษาจึงเป็นศูนย์กลางยืดคนทั้งชาติ ดังข้อความ ตอนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ในพระบาท สมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง "ความเป็นชาติโดยเเท้จริง" ว่า ภาษาเป็นเครื่องผูกพันมนุษย์ต่อมนุษย์เเน่นเเฟ้นกว่าสิ่งอื่น เเละไม่มีสิ่งใด ที่จะทำให้คนรู้สึกเป็นพวกเดียวกันหรือเเน่นอนยิ่งไปกว่าภาษาเดียวกัน รัฐบาลทั้งปวงย่อมรู้สึกในข้อนี้อยู่ดี เพราะฉะนั้น รัฐบาลใดที่ต้องปกครองคนต่างชาติต่างภาษา จึงต้องพยายามตั้งโรงเรียนเเละออกบัญญัติบังคับ ให้ชนต่างภาษาเรียนภาษาของผู้ปกครอง เเต่ความคิดเห็นเช่นนี้ จะสำเร็จตามปรารถนาของรัฐบาลเสมอก็หามิได้ เเต่ถ้ายังจัดการเเปลง ภาษาไม่สำเร็จอยู่ตราบใด ก็เเปลว่า ผู้พูดภาษากับผู้ปกครองนั้นยังไม่เชื่ออยู่ตราบนั้น เเละยังจะเรียกว่าเป็นชาติเดียวกันกับมหาชนพื้นเมืองไม่ได้ อยู่ตราบนั้น ภาษาเป็นสิ่งซึ่งฝังอยู่ในใจมนุษย์เเน่นเเฟ้นยิ่งกว่าสิ่งอื่น"
ดังนั้นภาษาก็เปรียบได้กับรั้วของชาติ ถ้าชนชาติใดรักษาภาษาของตนไว้ได้ดี ให้บริสุทธิ์ ก็จะได้ชื่อว่า รักษาความเป็นชาติ
คนไทยทุกคนใช้ภาษาไทยเป็นสื่อความรู้สึกนึกคิดเท่านั้นยังไม่เพียงพอ ควรจะรักษาระเบียบความงดงามของภาษา ซึ่งเเสดงวัฒนธรรม เเละ เอกลักษณ์ประจำชาติไว้อีกด้วย ดัง พระราชดำรัส สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตอนหนึ่งว่า
"ภาษานอกจากจะเป็นเครื่องสื่อสารเเสดงความรู้สึกนึกคิดของคนทั่วโลก เเล้ว ยังเป็นเครื่องเเสดงให้เห็นวัฒนธรรม อารยธรรม เเละเอกลักษณ์ ประจำชาติอีกด้วย ไทยเป็นประเทศซึ่งมีขนบประเพณี ศิลปกรรมเเละภาษา ซึ่งเจริญรุ่งเรืองมาแต่อดีตกาล เราผู้เป็นอนุชนจึงควรภูมิใจ ช่วยกัน ผดุงรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่บรรพบุรุษได้ อุตส่าห์สร้่างสรรค์ขึ้นไว้ให้เจริญสืบไป "
รวมสำนวน สุภาษิตไทยเกี่ยวกับสัตว์
กา
กาเหยี่ยวเฉี่ยวเอาไป หมายถึง สูญหายไปในทันที
กาหลงรัง หมายถึง ผู้ที่หลงติดอยู่บ้านใดบ้านหนึ่งแล้วไม่ยอมกลับบ้านตน, คนเร่ร่อน
กาหน้าดำเขาจำหน้าได้ หมายถึง คุ้นเคยกันจนจำได้ถนัดชัดเจน แม้จะห่างหายไปนาน
กาตาแววเห็นธนู หมายถึง ขี้ขลาด, กลัว
กาคาบพริก หมายถึง คนผิวดำแต่งตัวด้วยชุดสีแดง
กระต่าย
กระต่ายหมายจันทร์ หมายถึง ชายหนุ่มที่หมายปองหญิงสาวที่มีฐานะสูงกว่าตน
กระต่ายสามขา หมายถึง ยืนกรานไม่ยอมรับผิด
กระต่ายแหย่เสือ หมายถึง การล้อเล่น ท้าทายผู้ที่มีอำนาจบารมีมากกว่า อาจทำให้เกิดอันตรายได้
กระต่ายตื่นตูม หมายถึง ตกใจเกินเหตุโดยไม่สำรวจให้ถ่องแท้ก่อน
กบ
กบเลือกนาย หมายถึง ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนผู้บังบัญชาไปเรื่อยๆ ไม่ถูกใจสักที
กบในกะลาครอบ หมายถึง คนที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์
กบเกิดใต้บัวบาน หมายถึง อยู่ใกล้สิ่งที่ดีงามแต่กลับไม่รู้ค่า
ไก่
ไก่ได้พลอย หมายถึง ได้สิ่งที่มีค่าแต่ไม่รู้คุณค่า จึงไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด เปรียบกับไก่เวลาที่มันคุ้ยเขี่ยหาอาหารตามพื้นดิน ไม่ว่าจะเป็นเม็ดกรวดหินดินทราย หรือเพชรพลอยก็ไม่มีค่าสำหรับไก่
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง หมายถึง คนเราจะสวย หล่อ ดูดีได้ ต้องรู้จักการแต่งเนื้อแต่งตัว เปรียบกับไก่ที่ไม่ได้สวยเพราะเนื้อหนัง แต่สวยด้วยขนของมัน
ไก่รองบ่อน หมายถึง ผู้ที่อยู่ในฐานะตัวสำรอง จะเรียกมาใช้เมื่อไรก็ได้
ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ หมายถึง ต่างฝ่ายต่างรู้เรื่องราวความลับของอีกฝ่าย
ไก่แก่แม่ปลาช่อน หมายถึง กล่าวถึงผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอายุที่มีเล่ห์เหลี่ยม มีกริยาจัดจ้าน
ลูกไก่อยู่ในกำมือ หมายถึง ผู้ที่ตกอยู่ในอำนาจไม่มีทางหนีหรือต่อสู้ได้
กิ้งก่า
กิ้งก่าได้ทอง หมายถึง อวดดีจนลืมฐานะตัวเอง ได้ดีแล้วลืมตัว
วัว
รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี หมายถึง เมื่อลูกทำผิดควรอบรบสั่งสอน ว่ากล่าวตักเตือน ทำโทษบ้างตามสมควร
วัวหายล้อมคอก หมายถึง คิดป้องกันเมื่อเสียหายไปแล้ว
วัวลืมตีน หมายถึง คนที่ได้ดีแล้วลืมตัว
วัวแก่เคี้ยวหญ้าอ่อน หมายถึง ชายแก่ได้สาวรุ่นเป็นภรรยา
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก หมายถึง ความเดือดร้อนที่เกิดซ้ำซ้อนขึ้นมา
ตีวัวกระทบคราด หมายถึง การกระทำสิ่งใดเพื่อให้กระเทือนอีกฝ่าย เนื่องจากโกรธแต่ทำอะไรเขาโดยตรงไม่ได้
โตเป็นวัวเป็นควาย หมายถึง โตแล้วไม่มีความคิด
ควาย
สีซอให้ควายฟัง หมายถึง สอนความดีให้คนโง่ฟัง แต่ก็ไม่มีประโยชน์
ซื้อควายหน้านา ซื้อผ้าหน้าหนาว หมายถึง ซื้อของเมื่อมีคนต้องการมาก ย่อมได้ของราคาแพง
เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน หมายถึง ยุยงสองฝ่ายให้มีเรื่องกัน
อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น หมายถึง พึ่งพาอาศัยใครก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
งู
ขว้างงูให้พ้นคอ หมายถึง ปัดเรื่องร้ายไม่พ้นตัว
จับงูข้างหาง หมายถึง ทำสิ่งที่อันตรายจะเกิดกับตัวเองได้
เฒ่าหัวงู หมายถึง คนแก่เจ้าเล่ห์
หมองูตายเพราะงู หมายถึง พลาดพลั้งในสิ่งที่ชำนาญ
ล้วงคองูเห่า หมายถึง บังอาจลักขโมยทรัพย์สินจากผู้น่าเกรงขามหรือมีอิทธิพล
ตีงูให้กากิน หมายถึง การลงทุนลงแรงทำสิ่งใดแล้ว แต่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์จากสิ่งนั้น ผลประโยชน์กลายเป็นของคนอื่น แล้วตัวเองกลับได้ผลร้ายหรืออันตราย
จระเข้
จระเข้ขวางคลอง หมายถึง ทำอะไรขัดขวางผู้อื่น
จระเข้ฟาดหาง หมายถึง ใช้อำนาจหรือกำลังระรานโดยไม่เลือกหน้า
สอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ หมายถึง สอนผู้ที่รู้และมีความชำนาญในเรื่องนั้นดีอยู่แล้ว
หนีเสือปะจระเข้ หมายถึง หนีไปพบอันตรายที่ร้ายพอกัน
น้ำตาจระเข้ หมายถึง ความทุกข์โศกของผู้มีอำนาจที่ไม่อาจแสดงออกมาให้ใครเห็น
ช้าง
ขี่ช้างจับตั๊กแตน หมายถึง ลงทุนทำการใหญ่โตเกินสมควร
ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิด หมายถึง การทำความชั่วหรือความผิดร้ายแรงแม้จะพยายามกลบเกลื่อนปกปิดอย่างไรก็ปิดไม่มิด ต้องมีคนรู้จนได้
เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง หมายถึง ทำตามอย่างเขาเรื่อยไป
อ้อยเข้าปากช้าง หมายถึง ของที่ผู้อื่นได้ไปแล้วเอาคืนได้ยาก
ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ หมายถึง ดูคนให้ดูจากเชื้อสาย
ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น หมายถึง ทำไม่รู้เรื่อง ประหยัดที่ควรจ่าย จ่ายที่ควรประหยัด
นก
นกปีกหัก หมายถึง ตกอยู่ในสภาพพลาดพลั้งหรือลำบาก
นกสองหัว หมายถึง ทำตัวเข้าเป็นพวกทั้งสองฝ่าย
ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว หมายถึง ทำงานอย่างเดียวได้ประโยชน์หลายอย่าง
นกน้อยทำรังแต่พอตัว หมายถึง ทำอะไรพอเหมาะกับฐานะหรือความสามารถของตน
ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ หมายถึง ว่าอะไรว่าตามกัน
นกมีหู หนูมีปีก หมายถึง คนกลับกลอกเข้าพวกได้ทุกฝ่ายเพื่อประโยชน์ของตน
ลูกนกลูกกา หมายถึง คนที่ไม่มีอำนาจใดๆ ที่จะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
นกไร้ไม้โหด หมายถึง คนที่ไม่เป็นที่พึ่งพาอาศัยของใคร
ปลา
จับปลาสองมือ หมายถึง ทำสองฝักสองฝ่ายไม่แน่นอนข้างใด
น้ำมาปลากินมด น้ำลดมดกินปลา หมายถึง เป็นทีหรือเป็นโอกาสคนละครั้ง
(ปลา)กระดี่ได้น้ำ หมายถึง อาการระริกระรี้ดีใจจนเกินงาม
ปลาหมอตายเพราะปาก หมายถึง เป็นอันตรายเพราะคำพูดตัวเอง
ตีปลาหน้าไซ หมายถึง การพูดหรือการกระทำที่ทำลาย ขัดขวาง ผลประโยชน์ของผู้อื่น ทำให้กิจการที่ผู้อื่นกำลังดำเนินไปด้วยดีต้องหยุดชะงัก
ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หมายถึง ผู้มีอำนาจข่มเหงผู้ที่ด้อยกว่า
แมว
แมวไม่อยู่หนูร่าเริง หมายถึง หัวหน้า ผู้ปกครอง หรือผู้ใหญ่ไม่อยู่ ผู้อยู่ในปกครองหรือผู้น้อยเลยร่าเริงกัน
ย้อมแมวขาย หมายถึง เอาของเลวไปแปลงหลอกว่าเป็นของดี
ลิง
ยื่นแก้วให้วานร หมายถึง เอาของดีมีค่าไปยื่นกับผู้ที่ไม่รู้คุณค่า
ลิงหลอกเจ้า หมายถึง กิริยาล้อเลียนผู้ใหญ่เมื่อผู้ใหญ่เผลอ
ลิงได้แก้ว หมายถึง ผู้ที่ไม่รู้คุณค่าของสิ่งที่ได้มาหรือที่มีอยู่
เสือ
เขียนเสือให้วัวกลัว หมายถึง ขู่ให้กลัว
จับเสือมือเปล่า หมายถึง ทำการโดยไม่ต้องลงทุน
ปากเสือปากจระเข้ หมายถึง ท่ามกลางอันตราย
รู้ว่าเสืออย่าเอาเรือเข้าไปจอด รู้ว่ามอดอย่าเอาไม้เข้าไปขวาง หมายถึง กระทำในสิ่งที่ไม่รู้ว่าอาจมีอันตรายมาถึงตัว ซึ่งการกระทำอาจเกิดจากความโง่เขลา หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เสือไว้ลาย หมายถึง คนมีความสามารถ ทำอะไรย่อมแสดงฝีไม้ลายมือ
หมา
ชิงหมาเกิด หมายถึง ว่าคนที่เลวกว่าหมา
เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด หมายถึง ทำตามคำผู้ใหญ่มักไม่ผิดพลาดหรืออันตราย
เล่นกับหมาหมาเลียปาก เล่นกับสากสากตีหัว หมายถึง เล่นกับเด็กๆ ย่อมลามปาม
หมาจนตรอก หมายถึง ไม่มีทางไป
หมาหมู่ หมายถึง ใช้พวกมากเข้ารุม
หมาหวงก้าง หมายถึง หวงผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ มาก
หมาเห่าใบตองแห้ง หมายถึง ดีแต่พูดหรือแสดงท่าทางว่าตัวเองเก่ง แต่ไม่กล้าจริง
ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้ หมายถึง เรื่องย่อมมาจากมีสาเหตุขึ้นก่อน
หมากัดอย่ากัดตอบ หมายถึงอย่าโต้ตอบกับคนพาล
หมาลอบกัด หมายถึง ลอบทำร้าย
หมาเห่าไม่กัด หมายถึง ปากเก่ง ดีแต่พูด แต่ไม่ทำใคร
หุงข้าวประชดหมา หมายถึง ทำประชดให้เสียหายมากขึ้น
ขี้หมูราขี้หมาแห้ง หมายถึง เรื่องเล็กๆ น้อยๆ
หมู
ดินพอกหางหมู หมายถึง นิสัยที่ปล่อยให้การงานคั่งค้างสะสม เกียจคร้านไม่ยอมทำสิ่งนั้นให้สำเร็จโดยเร็ว จนในที่สุดก็พอกพูนจนทำสำเร็จได้ยาก
ยื่นหมูยื่นแมว หมายถึง แลกเปลี่ยนโดยมีของให้รับพร้อมๆ กัน
เต่า
ข้าเก่าเต่าเลี้ยง หมายถึง คนที่เคยรับใช้หรือเลี้ยงดูมานาน
โง่เง่าเต่าตุ่น หมายถึง โง่เหลือขนาด ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เต่าใหญ่ไข่กลบ หมายถึง ทำผิดแล้วพยายามกลบเกลื่อนปิดบังความผิดไม่ให้คนอื่นรับรู้
คน
คนดีผีคุ้ม หมายถึง คนทำดีย่อมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผีสาง เทวดา คอยคุ้มครอง ไม่มีภัย
คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย หมายถึง การทำอะไรที่มีความเสี่ยงไม่ควรทำตามลำพัง
คนตายขายคนเป็น หมายถึง จัดงานศพใหญ่โตอาจทำให้สิ้นเปลืองจนถึงขั้นยากจน เดือดร้อนเพราะคนที่ตายไปแล้ว
คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า หมายถึง คนที่มีความคิดเห็นสวนทางกัน คนไม่เคยเห็นเคยเจอก็อยากเห็นอยากเจอ คนที่เคยเห็นเคยเจอแล้วก็ไม่อยากอยู่ในสภาพนั้น
คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ หมายถึง คนรักมีน้อยกว่าคนที่เกลียดชัง
คนล้มอย่าข้าม หมายถึง อย่าดูถูกคนที่พลาดพลั้งหรือตกต่ำ
คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ หมายถึง จะคบหาสมาคมกับใครควรพินิจพิเคราะห์ให้ดีก่อน
อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา หมายถึง ให้อภัยคนที่ขาดสติ
คนจรหมอนหมิ่น หมายถึง คนพเนจรไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล หมายถึง คบคนชั่วก็ถูกชักพาไปทำชั่ว คบคนดีก็จะพากันทำดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น